2 เมนู ของทานเล่นคลายร้อน ข้าวเหนียวมะม่วง และ น้ำมะนาวดองโซดา
อากาศประเทศไทย ใครๆ ก็รู้ว่าร้อนมากๆ ร้อนแบบไม่ไหวแล้วพี่จ๋า เปิดแอร์แล้วก็ยังเย็นไม่สะใจ หาของหวานๆ ชื่นใจ มาทานดับร้อนดีกว่า Mazda City นำเสนอให้กับเพื่อนๆ 2 เมนูด้วยกัน ข้าวเหนียวมะม่วง (Mango Sticky Rice) และ น้ำมะนาวดองโซดา (Pickled Lime Soda) ค่ะ
ช่วงนี้ ข้าวเหนียวมะม่วงฮอตฮิตมากๆ พ่อค้าแม่ค้าขายดิบขายดีไม่ไหว จากกระแส #MilliliveatCoachella มิลลิ หรือ มินนี่ ดนุภา แรปเปอร์สาว โชว์กินขนมหวานของไทยบนเวทีเทศกาลดนตรี Coachella ทำเอา Mango Sticky Rice ติดเทรนค้นหาใน Google อย่างรวดเร็ว ก็ไม่อยากจะตกเทรนกับเขา แต่พอจะออกไปซื้อมาทานทีไรก็หมดก่อนทุกทีเลย ใครที่ซื้อไม่ทันไม่เป็นไร Mazda City มาแชร์วิธีทำ ข้าวเหนียวมูนนุ่มๆ ไว้ทานกับมะม่วง พร้อมวิธีทำเครื่องดื่มคลายร้อนให้ค่ะ
วิธีทำข้าวเหนียวมูน
คุณค่าทางโภชนาการ : มะม่วงสุกที่ทานกับข้าวเหนียวมูน มีวิตามินแร่ธาตุหลายอย่าง เช่น
- วิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ
- วิตามินเอ วิตามินซีและธาตุเหล็ก ที่ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย ช่วยให้ร่างกายผลิตเซลเม็ดเลือดขาว เสริมสร้างภูมิต้านทานและการเจริญเติบโต
- กะทิในข้าวเหนียวมูน ช่วยให้กระเพาะดูดซึมวิตามินเอและวิตามินบีได้ดีขึ้น
- เนื้อมะม่วงมีไฟเบอร์และเส้นใยมาก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
- ข้าวเหนียวมูนให้พลังงานสูง สามารถทานเป็นอาหารมื้อหลักได้เลย
ข้อแนะนำ : หากนำมะม่วงแช่เย็นก่อนนำมาปอก ทานกับข้าวเหนียวมูน จะช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ค่ะ เมนูข้าวเหนียวมะม่วง คนที่เป็นโรคเบาหวานและความดัน ไม่ควรทานเยอะ แนะนำให้ทานมะม่วงมากกว่าข้าว ราดน้ำกะทิน้อยๆ เนื่องจากแป้งจากข้าวเมื่อย่อยแล้วจะเปลี่ยนเป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์ ทานมากจะทำให้ไขมันจุกตับ ความเค็มและมันของน้ำกะทิจะไปเพิ่มความดันได้ค่ะ
อุปกรณ์และวัตถุดิบการมูนข้าวเหนียว สำหรับทาน 4-5 คน :
- ข้าวเหนียว 1,000 กรัม (แนะนำให้ใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูนำมามูนแล้วจะนุ่มอร่อย)
- ใบเตย 4-5 ใบ (ไว้ใส่ในน้ำนึ่งข้าวเหนียว และน้ำกะทิ ทำให้มีกลิ่นหอม)
- กะทิ 800 กรัม
- น้ำตาล 400 กรัม (ใครชอบหวานน้อยใช้แค่ 300 กรัมค่ะ)
- เกลือ 20 กรัม
- สารส้ม (ไว้ล้างข้าวเหนียว หุงแล้วจะทำให้เม็ดใส เงาสวย)
- ชามใหญ่ (สำหรับซาวข้าว)
- หวดหรือซึ้ง หม้อ (สำหรับนึ่งข้าวเหนียวและเคี่ยวน้ำกะทิ)
- ไม้พาย (ไว้พลิกข้าวเหนียวและเคี่ยวน้ำกะทิ)
ขั้นตอนมูนข้าวเหนียวมีดังนี้ :
- นำข้าวเหนียวใส่ชาม เปิดน้ำใส่ให้ท่วมข้าว แล้วนำสารส้มลงไปแกว่ง ซาวพร้อมข้าว เมื่อรู้สึกว่าน้ำเริ่มมีความหนืดๆ และผิวของข้าวเปลี่ยนเป็นใสๆ แล้วก็นำสารส้มออก
- เทน้ำสารส้มทิ้ง แล้วเปิดน้ำใส่ชาม ซาวข้าวอีกหลายๆ รอบ จนกว่าน้ำซาวข้าวจะใส
- เสร็จแล้วพักข้าว ทิ้งไว้ข้ามคืน หรือ 3-4 ชั่วโมงขึ้นไป
- นำข้าวเหนียวที่แช่ไว้ใส่หวด (หากบ้านไหนไม่มีหวดก็นำข้าวเหนียวใส่ผ้าขาวบางวางไว้บนซึ้งนึ่งได้ค่ะ)
- ใส่น้ำลงในหม้อสำหรับนึ่ง กะให้พอดี ไม่ต้องมากจนแตะก้นหวด เสร็จแล้วมัดใบเตยสัก 2 ใบ ใส่ลงไปในหม้อ แล้วนำไปตั้งไฟกลาง-แรง รอจนน้ำเดือดจัด
- เมื่อน้ำเดือดแล้วก็นำหวดไปวางบนหม้อ อย่าลืมหาฝาหม้อไว้ปิดด้านบนหวดด้วยนะคะ นึ่งข้าวปะมาณ 10 นาที
- เมื่อครบ 10 นาทีแล้วก็กลับหน้าข้าวเหนียว โดยพลิกเอาด้านบนของข้าวเหนียวลงไปไว้ก้นหวด เสร็จแล้วก็นึ่งต่ออีกประมาณ 10 นาที
ในระหว่างที่รอข้าวเหนียวสุก ก็มาเตรียมน้ำกะทิค่ะ
- นำ กะทิ น้ำตาล เกลือ และใบเตย (2-3 ใบม้วนเข้าด้วยกัน) ใส่หม้อนำไปตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง ไม่ต้องให้น้ำกะทิร้อนจนเดือด เอาแค่พออุ่นๆ ให้น้ำตาลกับเกลือละลายเข้ากันก็พอแล้วค่ะ เมื่อได้ที่แล้วก็ยกน้ำกะทิออกจากเตา พักให้เย็นลง
กลับมาที่ข้าวเหนียว
- เมื่อข้าวสุกเป็นเม็ดใสๆ เหนียวหนึบแล้ว ก็ยกหวดลงจากหม้อ เอาไปใส่ชามเตรียมมูนได้เลยค่ะ
- นำน้ำกะทิที่พักไว้เทลงไปผสมกับข้าวเหนียวร้อนๆ เกลี่ยข้าวไม่ให้เป็นก้อน เพื่อให้น้ำกะทิซึมเข้าไปในข้าวได้อย่างทั่วถึง เมื่อเกลี่ยข้าวเหนียวกับน้ำกะทิเข้ากันดีแล้วก็พักไว้ 20 นาที หรือจนกว่าข้าวเหนียวจะดูดน้ำกะทิเข้าไปจนเหลือเบบคลุกคลิก ใช้ฝาหม้อปิดปากชาม หรือใช้พลาสติกแรปปากชามก็ได้ค่ะ
- ระหว่างที่มูนข้าวเหนียวผ่านไปได้ 10 นาที ก็เปิดฝาหม้อคลุกข้าวเหนียวอีกครั้ง แล้วก็ปิดฝา มูนข้าวเหนียวต่อจนครบ 20 นาที ให้ข้าวดูดซึมน้ำกะทิจนแห้งเลยนะคะ
ในระหว่างที่รอข้าวเหนียวมูนเซตตัว ก็มาทำน้ำกะทิไว้ราดข้าวเหนียวกับมะม่วงกันค่ะ
วัตถุดิบทำน้ำกะทิสำหรับราด :
- กะทิ 400 กรัม
- น้ำตาล 70 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบเตย 1-2 ใบ
ขั้นตอนทำน้ำกะทิราด :
- นำแป้งข้าวเจ้า น้ำตาล และเกลือ เทลงใส่ถ้วย คลุกให้เข้ากัน
- นำกะทิและส่วนผสมที่อยู่ในถ้วยเทใส่หม้อ คนให้เข้ากัน
- ใส่ใบเตยที่ม้วนเข้าด้วยกัน แล้วนำหม้อไปตั้งไฟกลาง ใช้ไม้พายคนไปเรื่อยๆ ให้ส่วนผสมเข้ากันดี พอกะทิเริ่มเดือดก็ปิดไฟ ยกหม้อออกจากเตามาพักไว้ให้เย็นลง เตรียมพร้อมราดหน้าข้าวเหนียวมูนกับมะม่วง
วิธีทำน้ำมะนาวดองโซดา
คุณค่าทางโภชนาการ : ในมะนาวประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น
- วิตามินเอ
- วิตามินซี
- แคลเซียม
- ฟอสฟอรัส
- สารฟลาโวนอยด์
- กรดมาลิก
- กรดซิตริค
ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ลดอาการอักเสบ ควบคุมความดันโลหิต บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ กระตุ้นเอนไซม์ที่ช่วยในการขับถ่าย สลายนิ่วในไต ขับล้างสารพิษ รักษาโรคลักปิดลักเปิด ฯลฯ
ข้อแนะนำ : มะนาวดองนำมาทำเครื่องดื่ม ผสมน้ำอุ่นและน้ำผึ้งทานตอนเช้าจะช่วยให้หน้าท้องยุบ กระตุ้นการขับถ่ายได้ดีค่ะ หรือจะนำไปใส่โซดาทานดับกระหายในอากาศร้อนๆ ยิ่งเหมาะมากเลยค่ะ
อุปกรณ์และวัตถุดิบการดองมะนาว :
- โหลแก้วมีฝาปิด ขนาด 3 ลิตร
- มะนาวครึ่งกิโล (พันธุ์ธรรมดาหรือไร้เมล็ดก็ได้)
- น้ำตาลทรายแดง 3 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1 ถ้วยตวง
- น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วยตวง
- เกลือเม็ด (ไว้ขัดเปลือกมะนาว)
- เบคกิ้งโซดา (ลดความขม)
ขั้นตอนการดองมะนาวมีดังนี้ :
นำมะนาวไปล้าง และนำเกลือเม็ดมาขัดมะนาว ออกแรงขัดให้ทั่วทั้งลูก ขัดจนผิวไม่ลื่นไม่มัน สีเปลือกอ่อนลงนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้วค่ะ
ขัดเสร็จแล้วนำมะนาวไปล้างอีก 2-3 ครั้ง น้ำสุดท้ายให้ใส่เบคกิ้งโซดาแล้วแช่มะนาวไว้ประมาณ 10 นาที
พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ นำไปลวกในน้ำเดือด 30-60 วิ เช็ดให้แห้ง แล้วนำไปตากแดดประมาณ 3-5 วัน หรือจนกว่าผิวของมะนาวอมสีน้ำตาลหน่อยๆ หลังจากนั้นก็นำมาลวกอีกครั้งเป็นการฆ่าเชื้อโรคค่ะ
นำเกลือป่นและน้ำตาลทรายแดงผสมกับน้ำ โดยใส่น้ำในอัตราส่วน 1:1 แล้วนำไปต้มจนหนืด เสร็จแล้วพักไว้ให้เย็นค่ะ
เตรียมโหลแก้วโดยการนำไปลวกน้ำร้อน เสร็จแล้วก็นำไปคว่ำไว้ให้แห้ง
นำมะนาวเรียงใส่ในโหล ใส่น้ำผึ้งและน้ำตาลกับเกลือที่ต้มไว้ลงไปค่ะ
เสร็จแล้วก็ปิดฝา ดองไว้ (ไม่ต้องใส่ตู้เย็น) ประมาณ 1 อาทิตย์ก็นำมาทานได้แล้วค่ะ จะนำมาทำเครื่องดื่มหรือใส่ในซุปก็ได้
วัตถุดิบสำหรับทำน้ำมะนาวดองโซดา :
- โซดาขวด 325 มิลลิลิตร (ใช้แค่ 1/2 ขวด)
- ไซรัป หรือ น้ำผึ้ง (ปริมาณใส่ตามใจชอบ)
- น้ำมะนาวดอง 30 มิลลิลิตร
- น้ำแข็ง
ขั้นตอนทำน้ำมะนาวดองโซดา :
- ใช้แก้วขนาด 12 ออนซ์
- ใส่น้ำผึ้งหรือไซรัป
- ใส่น้ำมะนาวดอง คนให้น้ำผึ้งหรือไซรัปละลายให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- ค่อยๆ เทโซดาใส่ ไม่ต้องเทแรงมากนะคะ เดี๋ยวจะหายซ่า
- เสร็จแล้วก็ใส่น้ำแข็ง ดื่มได้เลย
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ : คลิก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดสุรินทร์
สามารติดตามข้อมูล โปรโมชั่น มาสด้า ได้ตามที่ช่องทางทั้งหมดนี้เลย!! ส่วนลดสูงสุดมาสด้าโปรดีสุดในประเทศ
—— Mazda City ยินดีให้บริการ ——
Inbox : m.me/mazdacity
Link Line : https://line.me/R/ti/p/%40mazdacitythailand
Line ID : @mazdacitythailand
โชว์รูม-ศูนย์บริการสาขาหัวหมาก : 02-736-3888, 085-6612588
ศูนย์ซ่อมสี-ตัวถังรามคำแหง 69 : 02-718-5060, 091-7727588
Website : https://www.mazdacity.co.th
Youtube : https://bit.ly/3feMh3E
Related posts:
ความแตกต่างระหว่าง New Mazda CX-3 รุ่น 2021 และรุ่นเดิม มีอะไรบ้าง? Mazda City จะเปรียบเทียบให้ดูกัน...
รีวิว New Mazda CX-30 รุ่นใหม่ 2022 รถครอสโอเวอร์เอสยูวี ที่พร้อมเติมเต็มความหมายให้กับทุกด้านของชีว...
‘พระปรางค์สามยอด’ ศิลปะขอมสุดยิ่งใหญ่ แห่งเมืองละโว้