ความรู้เบื้องต้นและวิธียืดอายุการใช้งาน “แบตเตอรี่รถยนต์”

Cover แบตเตอรี่รถยนต์ - Mazda City 00

เคยเจอปัญหาเหล่านี้กันหรือเปล่า? รถสตาร์ทไม่ติด หรือ ระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ทำงานได้ช้ากว่าปกติ อาจเกิดได้จาก ‘แบตเตอรี่รถยนต์’ หมด หรือ เสื่อมสภาพ หากจะต้องเปลี่ยนใหม่ รถของเราต้องใช้แบตเตอรี่ความจุเท่าไหร่ มีวิธีการดูแลรักษายังไงให้ใช้ได้นานๆ Mazda City จะมาอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ดังนี้ค่ะ

อธิบายคร่าวๆ ก่อนว่า แบตเตอรี่รถยนต์จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า แต่เป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้าสำรอง เมื่อใดก็ตามที่ไดชาร์จ (เครื่องปั่นไฟในรถ) ที่เป็นอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทัน ยกตัวอย่างเช่น การขับขี่ในเวลากลางคืนที่ทำให้ใช้ระบบไฟมากกว่าปกติ กรณีนี้ก็จะไปดึงกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้ ขณะเดียวกันถ้าไดชาร์จทำงานได้ดี หมุนเร็วขึ้น ทำให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากก็จะมีกระแสไฟฟ้าเหลือจากการใช้งาน ซึ่งจะถูกส่งกลับไปเก็บเป็นพลังงานสำรองที่แบตเตอรี่จนกว่าจะเต็ม ซึ่งก็หมายความว่า ในขณะที่เครื่องยนต์สตาร์ทติดและทำงาน ไดชาร์จทำหน้าที่ปะจุไฟเข้าแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง กระแสไฟถูกจ่ายออกไปและถูกประจุเข้า หมุนเวียนเข้าออกตัวแบตเตอรี่รถยนต์อยู่เสมอ

เอ้า! แบบนี้ก็ดูเหมือนว่าแบตเตอรี่ไม่น่าจะหมดได้ไม่ใช่หรอ?

ใช่แล้วล่ะ! แต่ก็มีกรณีที่ทำให้ไฟฟ้าในแบตเตอรี่หมดได้เหมือนกันนะ ถ้าหากว่ารถยนต์ของเราจอดนิ่งๆ นานเป็นสัปดาห์ หรือ ตัวไดชาร์จผิดปกติ ทำให้ผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อการใช้งานในระบบต่างๆ ภายในตัวรถ ก็จะมีการดึงไฟฟ้าออกจากแบตเตอรี่ไปใช้เรื่อยๆ จนหมด ต้องซ่อมระบบไดชาร์จหรือใช้วิธีชาร์จเร็ว ซึ่งต้องนำรถเข้าศูนย์ซ่อม หรืออีกวิธีคือจั้มแบตทำให้เครื่องยนต์ติด แล้วให้ไดชาร์จประจุไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ สามารถอ่าน วิธีการจั้มแบตรถยนต์ ได้เลย แต่วิธีนี้ไม่แนะนำให้ทำบ่อยเพราะอาจจะทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่สั้นลงได้ค่ะ อีกกรณีที่ทำให้แบตเตอรี่ไม่เหลือไฟฟ้าอยู่เลยก็คือ แบตเตอรี่รถยนต์หมดอายุการใช้งาน หรือ เสื่อมสภาพ ทำให้ไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้อีกต่อไป ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแบตแล้วล่ะ

แบตเตอรี่รถยนต์ ปกติจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1.5 – 2 ปี หลังจากวันผลิต หรือ 40,000 กิโลเมตร แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของเราด้วย ดังนั้น ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ตามระยะเวลาที่กำหนด ไม่ควรใช้งานนานกว่า 3 ปี

แล้วจะเลือกซื้อแบตเตอรี่แบบไหนดีนะ?

วิธีการเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ที่ทำให้ได้ของใหม่ ควรซื้อจากตัวแทนจำหน่ายโดยตรงจากโรงงาน และทุกครั้งเมื่อเราเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ควรเช็กดูตัวเลขที่อยู่กับตัวแบตเตอรี่ด้วยนะ ตามรูปด้านล่างนี้เลยค่ะ

แบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ มีอยู่ด้วยกัน 4 ชนิด

  1. แบตเตอรี่น้ำ เป็นประเภทแบตเตอรี่ดั้งเดิม ราคาจะถูกกว่า อายุการใช้งานจะนานกว่าเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดอื่น แต่แบตเตอรี่ชนิดนี้ต้องหมั่นดูแลบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับอยู่เสมอ
  2. แบตเตอรี่ไฮบริด เป็นประเภทแบตเตอรี่ที่มีการพัฒนาเพิ่มเติม เติมน้ำกลั่นบ้าง ประมาณ 6 – 9 เดือนต่อ 1 ครั้ง แรงสตาร์ทจะมีมากกว่าประเภทแบตเตอรี่น้ำ
  3. แบตเตอรี่กึ่งแห้ง เป็นแบตเตอรี่แห้งที่ยังสามารถเติมน้ำได้นั้น มีการพัฒนาตัวแผ่นธาตุ การเดินโครงตะกั่ว ส่วนผสมเพิ่มเติม และ ระบบฝาสองชั้น ทำให้สามารถลดการสูญเสียของน้ำกรดไปได้ค่อนข้างสูง แอมป์สูงขึ้น แรงสตาร์ทมาก เช็กระดับน้ำกลั่นปีละ 1 ครั้ง ราคาไม่แตกต่างกับแบตเตอรี่ชนิดอื่นมากนัก
  4. แบตเตอรี่แห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเลยตลอดอายุการใช้งาน ไม่ต้องคอยเช็ก แอมป์สูง แรงสตาร์ทมาก รับประกันนานที่สุด (ในบางยี่ห้อ) แต่ก็มีข้อที่ด้อยกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำคือ ราคาสูงและไม่สามารถสต๊อกไว้ได้นาน

ประเภทของแบตเตอรี่ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นแบบกึ่งแห้ง เนื่องจากราคาไม่สูงมากและไม่ต้องคอยเช็กคอยเติมน้ำกลั่นบ่อยๆ

สำหรับรถยนต์มาสด้าควรเลือกใช้แบตเตอรี่ความจุตามนี้เลยค่ะ

  • Mazda 2 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1,299 ซีซี และ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1,499 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุของแอมป์ 35 – 45 แอมป์

  • Mazda 3 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1,998 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุของแอมป์ 45 – 60 แอมป์

  • CX-3 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1,998 ซีซี และ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1,499 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุของแอมป์ 45 – 60 แอมป์

  • CX-5 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1,998 ซีซี, เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินเทอร์โบ 2,488 ซีซี และ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2,191 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุของแอมป์ 60 – 80 แอมป์

  • CX-8 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2,488 ซีซี และ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2,191 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุของแอมป์ 60 – 80 แอมป์

  • CX-30 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1,998 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุของแอมป์ 45 – 60 แอมป์

  • BT-50 เครื่องยนต์เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์, VN เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ 2,198 ซีซี และ 3,198 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุของแอมป์ 60 – 100 แอมป์

  • MX-5 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1,998 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่ที่มีความจุของแอมป์ 45 – 60 แอมป์

วิธีการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

ตาแมว แบตเตอรี่รถยนต์ - Mazda City
  • เติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับเสมอ ในแบตเตอรี่แต่ละรุ่นจะมีตาแมว ให้สังเกตไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ตามรูปค่ะ
    • แบตเตอรี่แบบน้ำ ให้ดูระดับน้ำทุกสัปดาห์
    • แบตเตอรี่แบบไฮบริด ให้ดูระดับน้ำทุก 6 เดือน
    • แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง ให้ดูระดับน้ำทุก 1 ปี
    • แบตเตอรี่แบบแห้ง ไม่ต้องดูระดับน้ำ
  • ตรวจดูและปิดสวิทซ์ไฟทุกครั้งหลังดับเครื่องยนต์
  • ไม่ได้ใช้แบตเตอรี่นานควรติดเครื่องยนต์อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 – 3 ครั้ง
  • ตรวจสายไฟ ตรวจระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ ทุกๆ 6 เดือน
  • ไดชาร์จ หรือ ไดนาโมรถยนต์ชำรุด ไม่ทำงาน สังเกตได้จากไฟแจ้งเตือนรูปแบตเตอรี่โชว์ขึ้นที่หน้าปัด หรือ รอบเครื่องยนต์ตก เร่งไม่ไปจนเครื่องยนต์ดับ ก็เดาได้เลยว่าอาจจะมีปัญหา ให้ซ่อมแซมพร้อมกับอัดไฟแบตเตอรี่
  • ขั้วต่อแบตเตอรี่ไม่แน่น หลวม หรือชำรุด จะทำให้กระแสไฟในรถไม่สม่ำเสมอ เกิดการกระชาก ระบบไฟฟ้าในรถยนต์หยุดทำงาน รถที่วิ่งอยู่อาจจะดับกลางทางได้ บางกรณีอาจทำให้ขั้วแบตละลายได้เลย แนะนำให้เปลี่ยนขั้วใหม่ หากเชี่ยวชาญก็แนะนำให้ใช้วิธีตอกน็อตหรือขันน็อตลงไปที่ขั้วแบตให้แน่นขึ้น
  • ดูแลแบตเตอรี่ให้สะอาดเสมอ กรณีหากเกิดขี้เกลือ (ลักษณะคล้ายผงแป้งสีขาว หรือ ฟ้า) ที่ขั้วของแบตเตอรี่ ให้ถอดขั้วออก ทำความสะอาดทั้งขั้วบนแบตเตอรี่และขั้วบนสายไฟฟ้า พร้อมเคลือบด้วยจาระบีหรือน้ำมันเครื่อง หากไม่มีความรู้เรื่องกลไก ใช้น้ำอุ่นราดผ่านก็เพียงพอในระดับหนึ่งค่ะ

สามารติดตามข้อมูล โปรโมชั่น มาสด้า ได้ตามช่องทางนี้เลย!! ส่วนลดสูงสุดมาสด้าโปรดีสุดในประเทศ

—— Mazda City ยินดีให้บริการ ——

Line ID : @mazdacitythailand
ฝ่ายบริการลูกค้าและโชว์รูมสาขาหัวหมาก : 02-736-388085-6612588
ศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังรามคำแหง 69 : 091-7727588

COPYRIGHTS 2019. ALL RIGHTS RESERVED