5 เมนูอาหาร ต้นตำหรับอาหารชาววัง

1. น้ำพริกลงเรือ

รูปภาพจาก : https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_832593

คงมีน้อยคนมากที่จะไม่รู้จักอาหารชนิดนี้ ผู้ที่คิดค้นตำรับนี้ขึ้นมาก็คือ “เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์” นั่นเอง น้ำพริกลงเรือนี้เกิดจากการที่เจ้าจอมเองต้องทำพระกายาหารถวายเจ้านายพระองค์หนึ่งขณะทรงออกไปพายเรือเล่น และโปรดที่จะเสวยพระกายาหารบนเรือนั้น ในเวลานั้นห้องเครื่องขาดของที่จะมาปรุงอาหารใดได้ ท่านจึงประยุกต์นำเอาของที่เหลืออยู่ ซึ่งก็ได้แก่ น้ำพริก ปลา และหมูหวานมาผัดรวมกันแล้วโปะด้วยไข่เค็ม ข้าวน้ำพริกลงเรือจึงเกิดขึ้น และมีชื่อมาถึงทุกวันนี้นั่นเอง

2. หรุ่ม

รูปภาพจาก : https://bit.ly/2NE4Mnt

ชื่ออาหารชนิดนี้อาจฟังดูแปลกหูสำหรับใครหลายคน แต่ที่จริงแล้ว “หรุ่ม” นั้นคืออาหารชนิดหนึ่งที่ปรากฏอยู่ใน กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ภายในประกอบไปด้วยหมูบดผัด กับหัวหอม และกระเทียม พร้อมกับรากผักชีโขลกกับพริกไทย “หรุ่ม” ถือเป็นของว่างที่นิยมมากกันในหมู่ชาววังแต่ปัจจุบันหาทานได้ยากมากเลยล่ะครับ

3. มัสมั่น

รูปภาพจาก : https://goodlifeupdate.com/healthy-food/94411.html

ถึงแม้ว่าแกงมัสมั่นจะเป็นอาหารที่มีที่มาจากทางมาลายูที่มีรสเผ็ดนำจากเครื่องเทศ แต่ก็เป็นที่นิยมในราชสำนักสยามอย่างมาก โดยได้รับการพัฒนาสูตรตลอดจนวิธีทำให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ความตอนหนึ่งว่า “มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา”

4. แสร้งว่า

รูปภาพจาก : https://bit.ly/2Pm6RHa

“แสร้งว่า” ไม่ได้แปลว่า “โกหก” หรืออะไรนะครับ แต่เป็นชื่ออาหารชาววังชนิดหนึ่ง ที่ใครหลายๆ คนสงสัยว่ามันคืออะไร

ว่ากันว่าจริงๆ แล้วแสร้งว่าพัฒนามาจากอาหารพื้นบ้านที่ใช้ไตปลาทำ แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในรั้วในวังก็ชุบตัวเปลี่ยนตัวเองเป็นกุ้งนาง ซึ่งแสร้งว่าถูกจัดอยู่ในหมวดเครื่องจิ้ม จิ้มกับอะไรนั้น ก็สุดแล้วแต่ ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นจำพวกผักสดและเครื่องเคียงต่างๆ ครับ

5. ปลาตะเพียนต้มเค็ม

รูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/pin/408138784980130024/?lp=true

เห็นซื้อมากินมาชิมกันง่ายมากในปัจจุบัน แต่ปลาตะเพียนต้มเค็มนี้ แท้จริงแล้วเกิดมาจากในรั้วในวังนะครับ ซึ่งก็ยาวนานไปถึงในรัชสมัยของพระเจ้าท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อาหารที่เรากินกันอยู่ในปัจจุบันนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานและน่าศึกษามากแค่ไหน ในฐานะที่เราเกิดเป็นคนไทย ชนชาติหนึ่งที่มีวัฒนธรรม และอุดมไปด้วยความเฟื่องฟูทางศิลปะที่หลากหลาย ทั้งความประณีตตลอดจนความอดทนที่ใส่ลงไปในจานอาหารแต่ละจานนอกจากจะทำให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้นแล้ว ศาสตร์แห่งการปรุงอาหารนี้ก็ถือเป็นเครื่องแสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่า “คนไทย” ให้ความสำคัญกับอาหารการกินมากแค่ไหน ว่าไหมครับ?

ขอบคุณรูปจาก 3.bp.blogspot,healthandcusine

ที่มาของข้อมูล : https://www.pptvhd36.com/news/ไลฟ์สไตล์/15397